วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ถ่ายภาพทะเลสวยให้สวยดั่งใจหวัง

         พบกันอีกแล้วสำหรับเทคนิคการถ่ายภาพแบบบ้าน ๆ และสำหรับบทความนี้จะแนะนำการถ่ายภาพทะเลให้สวยงามดั่งใจหวัง ส่วนใหญในฤดูร้อนเรามักที่จะชอบเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะ หรือชายหาดต่าง ๆ เพื่อพักผ่อน และคลายความเครียดจากภาวะอากาศของเมืองไทยที่ร้อนแสนร้อน การได้ไปรับลมทะเล นังชิลกับบรรยากาศท้องน้ำ และท้องฟ้าที่สดใส ย่อมทำให้มีความสดชื่นขึ้น และที่ขาดไม่ได้สำหรับการท่องเที่ยวก็คือ การได้ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก การถ่ายภาพท้องทะเล ท้องฟ้า และบรรยากาศสายลม แสงแดดนั้น ก็ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจอีกลักษณ์หนึ่ง โดยเฉพาะการถ่ายภาพวิวทะเล ชายหาด หรือเกาะต่าง ๆ ให้ได้ภาพที่สวยงาม ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับธรรมชาติของแสง และสิ่งต่าง ๆ ของภาพทะเล ต้องเข้าใจว่าแสงที่เราจะพบเจอนั้นมักจะเป็นแสงที่แรงสักหน่อย โดยเฉพาะวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง หรือที่เรียกว่าฟ้าเปิด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพทะเล 
                รายละเอียดต่าง ๆ ของภาพก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ความสดใสของน้ำทะเล ความขาวสะอาดของหาดทราย พื้นทรายใต้ท้องทะเลที่เราจะพบเห็นถ้าความใสของน้ำทะเลมีแสงแดดจะสาดส่องลงไปได้ลึกพอ และถ้าพื้นทรายด้านล่างมีความขาวนวลก็จะสะท้อนกลับออกมาได้มาก ทำให้เราสามารถมองเห็นน้ำทะเลเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม แต่ถ้าน้ำทะเลสกปรกมีความขุ่น แสงแดดส่องผ่านลงไปได้น้อยลงจนอาจจะไม่ถึงพื้นทรายด้านล่าง ทำให้พื้นทรายไม่สามารถสะท้อนแสงกลับขึ้นมาได้เราก็จะเห็นน้ำทะเลเป็นสีเขียวขี้ม้าอึมครึมเท่านั้น หรือแม้ว่าน้ำทะเลจะใสแต่ถ้าพื้นทรายด้านล่างไม่ขาวนวลก็จะสะท้อนแสงได้น้อย และจะเห็นน้ำทะเลไม่สวย ใสเป็นมรกตเช่นเดียวกัน หรือหากพื้นด้านล่างเป็นหินแนวปะการังก็จะไม่เห็นน้ำทะเลสวยๆเหมือนกันในขณะที่ตัวท้องฟ้าเองก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ภาพท้องทะเลสวยงามตามจิตนาการของเรา โดยปกติถ้าเป็นวันที่ฟ้าเปิดมีเมฆน้อย ท้องฟ้าริมทะเล หรือเกาะต่างๆ ก็มักจะเป็นสีฟ้าครามสวยงามอยู่แล้ว เราจะสามารถจัดองค์ประกอบของภาพให้เห็นทั้งน้ำทะเล และส่วนประกอบ เช่น เกาะ ชายหาด ต้นไม้ ผู้คน หรือสิ่งอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจนตามที่เราต้องการ เพราะท้องฟ้าก็สวย น้ำทะเลก็สวย แต่ถ้าเป็นวันที่ท้องฟ้าปิดมีเมฆมากท้องฟ้าจะไม่สดใส ถ่ายภาพออกมาก็จะไม่สวย การถ่ายภาพ ก็จะต้องพยายามหลีกเลี่ยงท้องฟ้าให้มากที่สุด

             สิ่งที่ควรระวังก็คงจะเช่นเดียวกับการถ่ายภาพวิวทั้งหลาย แต่ที่ต้องเน้นเป็นพิเศษสำหรับการถ่ายภาพทะเลก็คือ การวางเส้นของฟ้า เนื่องจากทะเลมักจะเห็นเส้นขอบฟ้าได้ชัดเจนกว่าภาพวิวที่ถ่ายตามภูเขา ต้องระวังไม่ให้เส้นขอบฟ้าเอียงไปจากแนวระดับเพราะจะทำให้ดูขัดตารวมถึงการจัดวางให้เส้นขอบฟ้าตามกฏเหล็กของการถ่ายภาพคือ 1 :  3 หรือ 2 : 3 (Rules of Third ) จะช่วยให้ภาพดูดีขึ้นได้

          อุปกรณ์เสริมก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรจะต้องมีติดตัวไปเวลาเดินทางไปท่องเที่ยวตามชายหาด หรือที่ต่าง ๆ นั่นก็คือ ฟิลเตอร์ C-PL เพราะฟิลเตอร์ชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษในการตัดแสงสะท้อนบนผืนน้ำออกไปได้ ทำให้ภาพถ่ายที่ได้ปราศจากแสงสะท้อนบนผืนน้ำ ทำให้เราได้ภาพที่เห็นสีสันของน้ำทะเลได้อย่างชัดเจน  และถ้าหากเราหันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศทางที่ตั้งฉากกับแนวของดวงอาทิตย์ซึ่งก็คือ แนวตะวันออก-ตะวันตก เจ้าฟิลเตอร์ C-PL นี้ก็จะทำหน้าที่ช่วยเพิ่มสีสันความเข้มให้กับท้องฟ้า หรือต้นไม้ใบหญ้า ต่าง ๆ ได้ด้วย 

             การถ่ายภาพทะเลที่สวยนั้นต้องมีการวัดแสงที่ถูกต้อง สำหรับผู้ที่เข้าใจเรื่องรูรับแสงคงจะไม่ยากเกินความสามารถ  ควรพิจารณาว่าภาพนั้นมีสัดส่วนของน้ำทะเล หรือหาดทรายมากน้อยอย่างไร  หากมีสัดส่วนของหาดทรายอยู่มาก ควรตั้ง over ไว้ซัก 1 stop เพราะหาดทรายสะท้อนแสงได้มาก ทำให้กล้องนึกว่ามีแสงเยอะ จะเปิดรับแสงน้อยทำให้ภาพมืดเกินไป  จึงต้องชดเชยด้วยการรับแสง over 1 stop ในทางตรงข้ามถ้าสัดส่วนหากภาพนั้นน้ำทะเลสีเข้มมาก ๆ ให้ตั้ง under ไว้ 1 stop เพื่อภาพที่ได้จะไม่ขาวซีดจนเกินไป   อีกเทคนิคหนึ่งที่ใช้คำนวณแสงได้อย่างแม่นยำคือ การหันกล้องไปวัดแสงบริเวณที่เป็นต้นไม้ หรือหญ้าเขียว ๆ แล้วใช้ค่าแสงนั้นในการถ่ายภาพได้เลย จะช่วยให้ได้แสงที่ถูกต้อง โดยที่ต้นไม้ หรือหญ้าต้องอยู่ในสภาพแสงเดียวกันกับภาพที่จะถ่าย ไม่ใช่อยู่ในสภาพแสงต่างกันโดยสิ้นเชิง

               ภาพทะเลตอนพระอาทิตย์ตกซึ่งหลาย ๆ อยากจะได้ภาพที่สวยงาม แต่กลับเจอปัญหาภาพออกมาไม่สวยดั่งใจคิด เป็นเพราะไม่เข้าใจเรื่องของการวัดแสงนั่นเอง การถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกนั้นจำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องเข้ามาช่วย โดยเฉพาะช่วงหลังพระอาทิตย์ตกไปแล้ว เพราะจะต้องเปิดรูรับแสงนานกว่าปกติทำให้ต้องมีขาตั้งกล้องช่วยพยุงไม่ให้กล้องสั่น หรือจะใช้ระบบอัตโนมัติโดยใช้โหมด night scene ก็ได้เช่นเดียวกัน การถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกนั้นไม่จำเป็นต้องใช้แฟลช ยกเว้นมีคน หรือวัตถุที่ต้องการให้ได้รับแสง  การวัดแสงนั้นในกรณีที่พระอาทิตย์ยังไม่ตกให้วัดแสดงที่ท้องฟ้าข้าง ๆ พระอาทิตย์ วัดแบบเฉพาะจุดเพื่อไม่ให้แสงพระอาทิตย์เข้ามามีผล  แต่ถ้าพระอาทิตย์ตกไปแล้วก็ให้วัดบริเวณที่พระอาทิตย์ตกได้เลยก็จะได้แสงที่พอดีและสวยงาม เทคนิคอีกอย่างหนึ่งก็คือควรถ่ายภาพคร่อม over/under ไว้อีกอย่างละหนึ่งภาพเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับภาพที่ดีที่สุด หวังว่าทริปต่อไปเพื่อน ๆ คงจะมีภาพทะเลสวย ๆ มาฝากกันนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น